ชำเเหละ! ฉลากบนกระป๋องน้ำมันหล่อลื่น เซียนตัวจริงต้องดูให้เป็น!

39 ผู้เข้าชม

แชร์ Card image cap

ชำเเหละ! ฉลากบนกระป๋องน้ำมันหล่อลื่น เซียนตัวจริงต้องดูให้เป็น!

หมดปัญหา เลือกน้ำมันหล่อลื่นไม่ถูก! เพราะสัญลักษณ์มากมายบนกระป๋อง 

วันนี้ PTT Lubricants จะพาทุกคนมาชำเเหละ! สัญลักษณ์ต่าง ๆ ที่ฉลากบนกระป๋องน้ำมันหล่อลื่น เพื่อให้คุณเข้าใจมากขึ้น พร้อมแล้ว ไปหาคำตอบพร้อมกันได้เลย!

 

จุดที่ 1 กลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับยานยนต์แต่ละประเภท

สิ่งสำคัญที่ผู้ใช้รถควรเลือกให้ถูก คือประเภทของผลิตภัณฑ์ ที่ใช้สำหรับยานพาหนะแต่ละประเภทที่แตกต่างกัน ได้แก่

  • ผลิตภัณฑ์กลุ่ม PERFORMA เป็นน้ำมันหล่อลื่นที่ตอบโจทย์รถยนต์นั่ง (เครื่องยนต์เบนซิน) ทุกประเภททั้งรุ่นใหม่ รุ่นเก่าและเฉพาะกลุ่ม ที่เน้นการใช้งานในชีวิตประจำวัน หรือการใช้งานทั่วไป
  • ผลิตภัณฑ์กลุ่ม DYNAMIC

เป็นน้ำมันหล่อลื่นที่ออกแบบมาสำหรับรถเครื่องยนต์ดีเซล เช่น รถปิคอัพ เอสยูวี พีพีวี ที่มีการใช้งานเบา ปานกลาง จนถึงงานหนัก 

  • ผลิตภัณฑ์กลุ่ม CHALLENGER 

เป็นน้ำมันหล่อลื่นที่ตอบโจทย์การทำงานของรถจักรยานยนต์ทุกสไตล์การขับขี่ ตั้งแต่ซูเปอร์ไบค์ที่ใช้ในการแข่งขัน จนถึงรถจักรยานยนต์ที่ใช้งานทั่วไป 

 

จุดที่ 2 เกรดของน้ำมันหล่อลื่น

อีกหนึ่งสิ่งที่ผู้ใช้รถควรเลือกให้ถูก คือ เกรดของน้ำมันหล่อลื่น เพื่อความคุ้มค่าและการใช้งานที่ได้ประสิทธิภาพ โดยสามารถเเบ่งได้เป็น 3 ประเภท ได้แก่

  • Fully Synthetic (น้ำมันหล่อลื่นสังเคราะห์)

น้ำมันหล่อลื่นที่ผลิตจากน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐานสังเคราะห์ โดยหากเป็นน้ำมันหล่อลื่นระดับสังเคราะห์ 100% จาก PTT Lubricants วิธีสังเกตง่าย ๆ คือ ภาชนะที่บรรจุจะเป็นกระป๋องสีทอง

  • Synthetic Tevhnology , Semi Synthetic (น้ำมันหล่อลื่นเทคโนโลยีสังเคราะห์ หรือ กึ่งสังเคราะห์)

น้ำมันหล่อลื่นกึ่งสังเคราะห์ ที่ผลิตจากน้ำมันพื้นฐานประเภทน้ำมันแร่และน้ำมันพื้นฐานสังเคราะห์ผสมกันในสัดส่วนที่แตกต่างกัน โดยหากเป็นน้ำมันหล่อลื่นระดับกึ่งสังเคราะห์จาก PTT Lubricants วิธีสังเกตง่าย ๆ คือ ภาชนะที่บรรจุจะเป็นกระป๋องสีดำ

  • High Quality (น้ำมันหล่อลื่นเกรดทั่วไป/น้ำมันแร่)

น้ำมันหล่อลื่น ที่ผลิตจากน้ำมันพื้นฐานประเภทน้ำมันแร่ ไม่เหมาะใช้งานในสภาวะอุณหภูมิต่ำหรือสูงมาก และมีการเสื่อมสภาพเร็วกว่าน้ำมันหล่อลื่นสังเคราะห์ และกึ่งสังเคราะห์ โดยหากเป็นน้ำมันหล่อลื่นระดับทั่วไปจาก PTT Lubricants วิธีสังเกตง่าย ๆ คือ ภาชนะที่บรรจุจะเป็นกระป๋องสีเงิน (สำหรับน้ำมันหล่อลื่นกลุ่ม DYNAMIC สำหรับเครื่องยนต์ดีเซลงานหนักเป็นกระป๋องสีแดง)

ข้อแนะนำ: ผู้ใช้รถสามารถเลือกเกรดน้ำมันหล่อลื่นที่เหมาะสมได้จากสภาพลักษณะการใช้งานและความคุ้มค่า เมื่อเปรียบเทียบระยะเวลาการเปลี่ยนถ่ายกับราคาน้ำมันหล่อลื่น

 

จุดที่ 3 ค่าความหนืดของน้ำมันหล่อลื่น

สิ่งสำคัญที่ผู้ใช้รถควรเลือกให้ถูกกับประเภทของรถ การใช้งานและอายุการใช้งาน คือ เบอร์ความหนืด ซึ่งเป็นค่าที่บ่งบอกถึงความสามารถในการต้านทานการไหลของน้ำมันหล่อลื่น เบอร์ความหนืดที่สูงหรือต่ำ จะมีผลต่อความหนาของฟิล์มน้ำมันหล่อลื่น ที่ช่วยปกป้องชิ้นส่วนต่าง ๆ ภายในเครื่องยนต์ต่อการเสียดสีเมื่อเครื่องยนต์ทำงาน โดยแบ่งเป็น 2 ชนิด ได้แก่

  • น้ำมันหล่อลื่นเกรดเดี่ยว น้ำมันที่ไม่ได้ปรับแต่งค่าความหนืด จึงมีคุณสมบัติอยู่ในช่วงเบอร์ความหนืดเดียวเท่านั้น สามารถใช้ได้ดีเฉพาะบางช่วงอุณหภูมิ เช่น SAE 30 , SAE 40 , SAE 50 
  • น้ำมันหล่อลื่นเกรดรวม น้ำมันที่ได้ปรับแต่งความหนืด สามารถใช้งานได้ดีทั้งช่วงอุณภูมิต่ำและสูง น้ำมันหล่อลื่นเกรดรวมนั้นมีจุดเด่นที่เหนือกว่าเกรดเดี่ยวในด้านการไหลตัวหล่อลื่นชิ้นส่วนเครื่องยนต์ได้ดีและรวดเร็วตอนสตาร์ท จึงช่วยป้องกันการสึกหรอซึ่งมักเกิดขึ้นมากที่สุดตอนสตาร์ทได้ดียิ่งขึ้น เช่น 0W-20 , 0W-30 , 0W-40 , 5W-30 , 5W-40 , 5W-50 , 10W-30 , 10W-40 , 10W-60 , 20W-50 ,15W-40

สำหรับน้ำมันหล่อลื่นที่มีค่าความหนืดต่ำจะโดดเด่นเรื่อง ความสามารถในการหล่อลื่น – เพิ่มสมรรถนะในการขับขี่ ช่วยประหยัดเชื้อเพลิง การปกป้องเครื่องยนต์ทันทีที่สตาร์ต

สำหรับน้ำมันหล่อลื่นที่มีค่าความหนืดสูง จะโดดเด่นเรื่อง ฟิล์มน้ำมันแข็งแรง – รับแรงกดแรงกระแทกสูง มีความสามารถในการปกป้องเครื่องยนต์ที่อุณหภูมิสูง และมีความสามารถในการยึดเกาะที่สูงขึ้น

ทั้งนี้ การเลือกเบอร์ความหนืดให้เหมาะสมกับรถยนต์ ควรเช็กจากคู่มือรถยนต์ อายุการใช้งานหรือจากคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญนะครับ

 

อ่านรายละเอียด “อ่านค่าความหนืดให้เป็น ก็เลือกน้ำมันได้ง่ายขึ้น” ได้ที่: https://pttlubricants.pttor.com/th/knowledge_bit_detail/3/48

 

จุดที่ 4 นวัตกรรมเฉพาะในน้ำมันหล่อลื่น

เพราะ PTT Lubricants ไม่หยุดยั้งที่จะออกแบบพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ ๆ ในน้ำมันหล่อลื่น เพื่อตอบโจทย์การใช้งาน และก่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการขับเคลื่อนยานพาหนะทุกประเภท จึงเกิดเป็นนวัตกรรมเฉพาะในน้ำมันหล่อลื่นของ PTT Lubricants ยกตัวอย่างเช่น

  • Triple Action Formula

เป็นเทคโนโลยีของน้ำมันหล่อลื่นรถมอเตอร์ไซค์ที่ให้การปกป้องที่เหนือกว่าน้ำมันหล่อลื่นทั่วไปด้วย 3 คุณสมบัติ คือ ให้การปกป้องเครื่องยนต์จากความร้อนและการเสียดสีที่ความเร็วรอบที่สูงพิเศษ การป้องกันคลัตช์ลื่น เข้าเกียร์ได้ง่าย ไม่สะดุด อีกทั้งยังช่วยปกป้องชุดเกียร์ รวมถึงลดการสึกหรอแม้ใช้งานหนักอีกด้วย

  • High Film Strength (HFS) Technology

เป็นเทคโนโลยีน้ำมันหล่อลื่น ที่มุ่งเน้นการลดความหนืด เพื่อลดการใช้พลังงาน ในขณะเดียวกันจะต้องไม่สูญเสียประสิทธิภาพด้านปกป้อง ตอบโจทย์การใช้งานในประเทศไทยและภูมิภาคเขตร้อน ที่จะช่วยลดการเกิดการพร่องน้ำมันได้ โดยพัฒนาให้ฟิล์มน้ำมันมีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น เพื่อการปกป้องที่เหนือกว่า แม้ว่าจะเป็นน้ำมันความหนืดต่ำก็ตาม

  • ULTRA SHIELD MOLECULES

เป็นเทคโนโลยีน้ำมันหล่อลื่น ที่อยู่ภายใต้ EVOTEC TECHNOLOGY ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อรองรับเครื่องยนต์ยูโร 5 ที่กำลังจะมาถึงในประเทศไทยที่ช่วยลดมลพิษจากเครื่องยนต์ที่เป็นปัญหาในปัจจุบัน โดดเด่นเรื่องการปกป้อง ช่วยยืดอายุเครื่องยนต์ให้ใช้งานได้ยาวนาน คุ้มค่าสูงสุด และเป็นมิตรกับอุปกรณ์บำบัดไอเสีย

  • EVOTEC TECHNOLOGY

เป็นแพลตฟอร์มเทคโนโลยีน้ำมันหล่อลื่น ที่มีแนวคิดในการพัฒนาน้ำมันหล่อลื่นให้ดียิ่งขึ้นเพื่อรองรับยานยนต์และโลกยุคใหม่ ด้วยการคำนึงถึงประโยชน์ใน 3 ด้านหลัก ( 3 E Benefit) ได้แก่ Endurance, Efficiency และ Environment ที่ช่วยดูแลควบคุมความสะอาดของเครื่องยนต์ ป้องกันการสึกหรอทั้งในสภาวะการใช้งานปกติและอุณหภูมิร้อน รวมถึงการคงคุณสมบัติด้านความหนืด ความเสียดทาน และสามารถทนต่อการเสื่อมสภาพได้ดีตลอดระยะการใช้งานที่เพิ่มมากขึ้น

  • SMART MOLECULES

เป็นเทคโนโลยีของสารเพิ่มคุณภาพ (Additives) โดยผสานการทำงานร่วมกันของสารทำความสะอาดขั้นสูงเพื่อการคงประสิทธิภาพสูงสุดของเครื่องยนต์ไปพร้อมกับป้องกันการเกิดการชิงจุดระเบิดที่รอบต่ำ (LSPI) ได้อย่างดีเยี่ยม ร่วมด้วยสารต้านทานการสึกหรอคุณภาพสูงพิเศษเพื่อการปกป้องเครื่องยนต์สูงสุดโดยเฉพาะบริเวณชุดขับเคลื่อนวาล์วและชิ้นส่วนที่ต้องรับงานหนักต่อเนื่องยาวนาน

  • DDL BOOSTER

เป็นเทคโนโลยีใหม่ของน้ำมันหล่อลื่น ที่โดดเด่นเรื่องการชะล้างและการกระจายเขม่าสำหรับเครื่องยนต์ดีเซล โดดช่วยทำความสะอาดระบบภายในเครื่องยนต์ ช่วยป้องกันการสึกหรอ เพิ่มสมรรถนะในการขับขี่ และยืดอายุการใช้งานของทั้งเครื่องยนต์รวมถึงน้ำมันหล่อลื่นด้วย

  • CLEAN AND LOCK TECHNOLOGY

เป็นเทคโนโลยีสำหรับเครื่องยนต์ดีเซล ที่สุดแห่งการรักษาความสะอาด เพราะควบคุมความสกปรกได้ตั้งแต่ต้นทาง โดยเพิ่มสารชะล้างคุณภาพสูง จึงช่วยป้องกันการเกิดโคลนน้ำมันและคราบจับติดบริเวณไส้กรองน้ำมันเครื่อง ให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ด้วยฟิล์มน้ำมันที่แข็งแรง และปกป้องเครื่องยนต์จากการทำงานทุกสภาวะแม้งานหนัก

  • ESTER TECH 

เป็นเทคโนโลยีสูตรเฉพาะของ PTT Lubricants ที่ให้การปลดปล่อยอัตราเร่งและกำลังถึงขีดสุดให้กับเครื่องยนต์ทุกช่วงความเร็วรอบ จึงช่วยให้เกิดความได้เปรียบในการแข่งขันได้อย่างยิ่ง โดยปราศจากอาการคลัตช์ลื่น อัตราเร่งตก เข้าเกียร์ยาก ไม่แม่นยำ และช่วยเพิ่มความแรงให้กับรถจักรยานยนต์ที่ปรับแต่งสมรรถนะหรือรถแข่งโดยเฉพาะ

  • DI-SYN PROTECT

เทคโนโลยีของน้ำมันหล่อลื่นที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการปกป้องเครื่องยนต์ทั้งในสภาวะอุณหภูมิต่ำ และอุณหภูมิสูง จุดเด่นในด้านการทนแรงเฉือนที่ดีเยี่ยม ทนต่อความร้อนที่อุณหภูมิสูงได้ดี และอัตราการระเหยต่ำ

 

อ่านรายละเอียดนวัตกรรมเฉพาะในน้ำมันหล่อลื่นเพิ่มเติมได้ที่: https://pttlubricants.pttor.com/knowledge_lubrication_list

 

จุดที่ 5 มาตรฐานของน้ำมันหล่อลื่น

หลักการเลือกน้ำมันหล่อลื่นให้กับเครื่องยนต์ คือ การเลือกให้ถูกมาตรฐาน และสอดคล้องกับความต้องการของเครื่องยนต์ของรถนั้น ๆ  โดยผู้ผลิตรถยนต์จะกำหนดไว้ในคู่มือรถ ได้แก่

  • "API" (American Petroleum Institute) มาตรฐานโดยสถาบันปิโตรเลียมแห่งสหรัฐอเมริกา

มาตรฐาน API ที่เราจะมาแนะนำกันในวันนี้มี 2 ประเภท ได้แก่

ประเภท 1 คือ API S คือ “Spark Ignition” สำหรับเครื่องยนต์เบนซิน ซึ่งปัจจุบัน มาตรฐานสูงสุดของน้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์เบนซินจะอยู่ที่ API SP เน้นเรื่องการประหยัดเชื้อเพลิงสูง, ปกป้องเทอร์โบชาร์จ และปกป้องระบบควบคุมการปล่อยมลพิษจากท่อไอเสียได้ดี 

กลุ่มที่ 2 คือ API C คือ “Compression Ignition” สำหรับเครื่องยนต์ดีเซล ซึ่งปัจจุบัน มาตรฐานสูงสุดของน้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์ดีเซลจะอยู่ที่ API CK-4 ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยยืดอายุการทำงานของอุปกรณ์บำบัดไอเสียมีความสามารถในการอุ้มเขม่า และควบคุมการสะสมสิ่งสกปรกบริเวณลูกสูบได้ดี

ข้อแนะนำ: ไม่ควรใช้น้ำมันหล่อลื่นที่มีคุณภาพต่ำกว่าคำแนะนำจากผู้ผลิต ซึ่งผู้ใช้รถสามารถตรวจสอบได้จากคู่มือรถ ว่ารถของคุณควรใช้น้ำมันหล่อลื่นที่มี API ไหนจึงจะเหมาะสม

 

  • “ILSAC” (International Lubricant Standardization and Approval Committee) มาตรฐานของคณะกรรมการกําหนดมาตรฐานสากลสําหรับน้ำมันหล่อลื่นและการรับรอง แบ่งเป็น ILSAC GF-1 / GF-2 / GF-3 / GF-4 / GF-5 และ GF-6

ปัจจุบันเกรดสูงสุดของ ILSAC คือ GF-6 ซึ่งเทียบได้กับมาตรฐาน API SP มีคุณสมบัติการพัฒนาและปรับปรุงอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองความต้องการของยานยนต์ยุคใหม่ โดย GF-6 นั้นมุ่งเน้นสำหรับเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จโดยเฉพาะ เพื่อจัดการปัญหาการจุดระเบิดผิดเวลา (LPSI) ซึ่งเป็นปัญหาทั่วไปที่เกิดขึ้นกับเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ และเน้นในด้านการช่วยลดอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง

 

  • "ACEA" (Association of European Automotive Manufacturers) มาตรฐานโดยสถาบันผู้ผลิตยานยนต์ในตลาดร่วมยุโรป

สำหรับน้ำมันหล่อลื่นเพื่อเครื่องยนต์เบนซินหรือดีเซลงานเบา แบ่งเป็น A1/B1, A2/B2, A3/B3, A3/B4 และ A5/B5

สำหรับน้ำมันหล่อลื่นเพื่อเครื่องยนต์ดีเซลงานหนัก แบ่งเป็น E4 / E6 / E7 และ E9 

 

  •  "JASO" (Japan Automobile Standards Organization) มาตรฐานโดยสถาบันผู้ผลิตรถยนต์ในประเทศญี่ปุ่น 

เป็นมาตรฐานที่จัดหมวดหมู่น้ำมันเครื่อง โดยใช้ค่าแรงเสียดทานเป็นตัวกำหนด มอเตอร์ไซค์ทั้ง 2 ระบบ ได้แก่ คลัตช์เปียก และคลัตช์แห้ง 

1. JASO MA น้ำมันล่อลื่นที่เหมาะกับรถจักรยานยนต์ 4 จังหวะทั่วไป ที่มีการรวมชุดเกียร์ และชุดคลัตช์ อยู่ในอ่างน้ํามันหล่อลื่น หรือที่เรียกวา “คลัตช์เปียก”เป็นน้ํามันเครื่องที่ผ่านการทดสอบการป้องกันคลัตช์ลื่น เพื่อช่วยให้แผ่นคลัตช์ที่แช่อยูในอ่างน้ํามันหล่อลื่น สามารถยึดจับกันอย่างดี ไม่ลื่นสะดุด ส่งผลให้อัตราเร่งดี ปกป้องแผ่นคลัตช์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ  ซึ่ง JASO MA ยังแยกย่อยเป็น 2 ระดับตามแรงเสียดทาน ได้แก่ JASO MA1 คือน้ํามันเครื่องที่มีแรงเสียดทานปานกลาง JASO MA2 คือ น้ํามันเครื่องที่มีแรงเสียดทานสูง 

2. JASO MB เป็นน้ํามันหลอลื่นที่ใช้กับรถจักรยานยนต์ 4 จังหวะที่มีการแยกชุดเกียร์ และชุดคลัตช์ออกจากอ่างน้ํามันหล่อลื่น หรือที่เรียกกันวา “คลัตช์แห้ง” จึงไม่จําเป็นต้องมีค่าแรงเสียดทานหรือความฝืดสูงมาก เพราะไม่ต้องใช้ป้องกันคลัตช์ลื่นเมื่อเทียบกับ JASO MA

 

ทั้งหมดนี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่งในการอ่านสัญลักษณ์ต่าง ๆ ที่ฉลากบนกระป๋องน้ำมันหล่อลื่นเท่านั้น หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะทำให้คุณเข้าใจมากขึ้น และทำให้ครั้งต่อไป เมื่อคุณตัดสินใจเลือกซื้อน้ำมันหล่อลื่น จะทำให้เลือกได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมกับเครื่องยนต์ของคุณนะครับ 

ผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นคุณภาพ พร้อมให้คุณเป็นเจ้าของแล้ววันนี้ที่ PTT Station และ FIT Auto หรือร้านค้าที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ PTT Lubricants ใกล้บ้านคุณ